ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการลดความอ้วนที่ควรหลีกเลี่ยง

ปัจจุบันข้อมูลเกี่ยวกับการลดความอ้วน ลดน้ำหนัก นั้นมีอยู่มากมายตามอินเตอร์เน็ต ซึ่งบางอย่างก็มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ แต่บางอย่างก็เป็นความเชื่อผิดๆ ที่ทำให้เราสับสน และอาจนำไปสู่การลดความอ้วนผิดวิธีได้ ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการลดความอ้วนที่พบบ่อย ซึ่งเราทุกคนควรรู้เท่าทันและหลีกเลี่ยงให้ไวก่อนจะสายเกินแก้

ความเชื่อที่ 1: ถ้าอยากผอมต้องอดอาหาร

การอดอาหาร หรือรับพลังงานน้อยกว่าที่ร่างกายต้องการใช้ อาจทำให้น้ำหนักลดลงในช่วงแรกๆ เท่านั้น แต่ในระยะยาวนั้นไม่เป็นผลดีนัก เนื่องจากร่างกายที่ได้รับอาหารไม่เพียงพอเป็นเวลานาน จะหันมาสลายโปรตีนจากกล้ามเนื้อเป็นพลังงาน และยิ่งเก็บสะสมไขมันไว้มากขึ้น ซึ่งนอกจากจะไม่ช่วยให้ผอมลงแล้ว ยังทำให้กล้ามเนื้อขาดความแข็งแรง รูปร่างไม่กระชับ ระบบเผาผลาญแย่ลง และหากกลับมากินเยอะเหมือนเดิมเมื่อไหร่ ก็เตรียมใจกลับมาอ้วนได้เลย

ความเชื่อที่ 2: อยากผอมเร็ว ยาลดความอ้วนช่วยได้

หลายคนที่ขี้เกียจออกกำลังกาย ไม่อยากคุมอาหาร อาจหันมาพึ่งยาลดความอ้วนเพราะเชื่อว่าเป็นวิธีที่เห็นผลเร็วกว่า ยาลดความอ้วนโดยทั่วไปมักมีสาร ไซบูทามีน และยา เฟนเตอมีน ซึ่งออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ทำให้ความอยากอาหารลดลง รวมถึงอาจมีสารที่มีฤทธิ์เป็นยาระบาย หรือช่วยชะลอการดูดซึมไขมันในลำไส้ด้วย

การใช้ยาลดความอ้วนอาจทำให้ผอมลงได้ในระยะแรก แต่ก็มาพร้อมกับผลข้างเคียงที่อันตรายมาก เช่น มีอาการซึมเศร้า วิตกกังวล เห็นภาพหลอน ความดันโลหิตสูง หัวใจทำงานผิดปกติ รวมถึงทำให้ระบบเผาผลาญพังอย่างกู่ไม่กลับ จนเกิดภาวะที่กลับมาอ้วนอย่างรวดเร็ว ซึ่งเรียกว่า “โยโย่ เอฟเฟค” ได้

ความเชื่อที่ 3: ควรออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอหนักๆ

การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เช่น การวิ่ง ว่ายน้ำ หรือปั่นจักรยาน ต่อเนื่องกันอย่างน้อย 15 – 20 นาที จะช่วยกระตุ้นการสลายไขมันและลดความอ้วนได้จริง แต่การคาร์ดิโอหนักเกินไปอาจไม่ดีอย่างที่คิด เพราะในระหว่างออกกำลังกาย จะเกิดการสลายกล้ามเนื้อมาใช้เป็นพลังงานมากขึ้น ทำให้มวลกล้ามเนื้อน้อยลงและระบบเผาผลาญแย่ลงตามไปด้วย จนบางคนเกิดปัญหาว่าออกกำลังกายเท่าไหร่น้ำหนักก็ไม่ลดลงอีก

นอกจากนี้ การสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ ยังทำให้รูปร่างดูหย่อนย้วย ไม่กระชับ แม้จะผอมลงก็ตาม ดังนั้น วิธีลดความอ้วนที่ดีที่สุด คือการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโออย่างพอดี สลับกับการเวทฯ เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ไปด้วย

ความเชื่อที่ 4: ควรงดกินไขมันไปเลย

หลายคนมักเชื่อว่าไขมันเป็นสาเหตุของความอ้วน ดังนั้น หากต้องการลดความอ้วนก็ควรงดกินไขมันโดยสิ้นเชิง ขอบอกว่าความเชื่อนี้ผิดอย่างแรง! เพราะไขมันเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายมาก และมีบทบาทสำคัญหลายอย่าง เช่น ใช้ในการสังเคราะห์ฮอร์โมน หรือเป็นส่วนประกอบของเซลล์ เป็นต้น

หากต้องการลดความอ้วน สิ่งที่ควรทำคือจำกัดปริมาณอาหารที่มีไขมันสูง หลีกเลี่ยงการกินไขมันไม่ดีหรือไขมันทรานส์จากอาหารบางอย่าง เช่น ฟาสต์ฟู้ด ของทอด ขนมหวาน และเลือกกินไขมันดี เช่น ไขมันจากปลาทะเล น้ำมันมะกอก น้ำมันคาโนล่า อัลมอนด์ อะโวคาโด เป็นต้น

ความเชื่อที่ 5: สูตรไดเอทต่างๆ ช่วยให้ผอมได้ใน 7 วัน 10 วัน

เราคงเคยผ่านตาสูตรไดเอท ที่ว่ากันว่าช่วยให้ผอมได้ภายใน 7 วันบ้าง 10 วันบ้าง มาไม่มากก็น้อย ซึ่งบางคนทำตามแล้วก็อาจเห็นผลจริง แต่สำหรับบางคนก็อาจไม่ได้ผลเลย แถมยังทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น อ่อนเพลียและไม่สดชื่นด้วย นั่นก็เพราะวิธีลดน้ำหนักที่เป็นสูตรสำเร็จ อาจไม่ได้เหมาะกับร่างกายทุกคน

ดังนั้น แทนที่จะลดความอ้วนตามสูตรของคนอื่น เราควรคำนึงถึงสภาพร่างกายและเงื่อนไขของตัวเองเป็นหลัก เช่น เรามีน้ำหนักเท่าไหร่ มีโรคประจำตัวหรือไม่ ในแต่ละวันต้องใช้พลังงานเท่าไหร่ แล้วจึงเน้นไปที่การรับพลังงานอย่างเพียงพอ แต่กำหนดสัดส่วนอาหารให้เหมาะสม ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายเพื่อลดไขมันและเสริมสร้างกล้ามเนื้อ แนวทางนี้จะช่วยให้เราสามารถควบคุมน้ำหนักได้ในระยะยาวโดยไม่เสียสุขภาพ และไม่จำเป็นต้องพึ่งพาสูตรไดเอทใดๆ