อดอาหาร ทานน้อยไป ร่างกายอาจพังไวโดยไม่รู้ตัว!
- แคลอรี่ ไดอารี่
- 8 ก.ค. 2563
- ยาว 1 นาที
หนุ่มสาวหลายคนที่อยากลดความอ้วน มักมีความเชื่อผิดๆ ว่าการกินให้น้อยที่สุดเท่าที่จะน้อยได้ จะยิ่งช่วยให้ผอมเร็วขึ้น ... แต่รู้ไหมว่า ความจริงแล้วการนำเข้าแคลอรีน้อยเกินไป นอกจากจะไม่ช่วยให้ผอมอย่างยั่งยืนแล้ว ยังอาจส่งผลเสียต่อร่างกายมากมายในระยะยาวด้วย
ใครที่กำลังคิดจะไดเอทด้วยการอดอาหาร อาจต้องลองคิดใหม่ เพราะการอดอาหารอาจไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุดของคุณก็ได้
ทำไมเราจึงไม่ควรอดอาหารมากเกินไป?
ร่างกายเราต้องการพลังงานสำหรับกิจกรรมทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่การนั่งอยู่เฉยๆ หรือการนอนหลับ เพราะอย่างน้อยเราก็ยังต้องหายใจ และอวัยวะภายในก็ต้องทำงานอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น การรับพลังงานให้เพียงพอกับกิจกรรมในแต่ละวันจึงมีความสำคัญมาก
โดยทั่วไปคนเราต้องการพลังงานประมาณ 2,000 – 2,500 Kcal/วัน แต่หากร่างกายเราได้รับพลังงานไม่เพียงพอกับความต้องการ การทำงานของระบบต่างๆ ย่อมเกิดปัญหา และส่งผลเสียตามมามากมาย ตัวอย่างเช่น:
ร่างกายอ่อนเพลีย
ในหนึ่งวันเราอาจต้องทำกิจกรรมมากมาย ทั้งการเดินทาง การเรียน การทำงาน หรือการออกกำลังกาย แต่เมื่อร่างกายได้รับแคลอรีไม่เพียงพอ ก็ย่อมเกิดอาการอ่อนเพลียหมดเรี่ยวแรงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และเมื่อเซลล์สมองขาดพลังงาน ประสิทธิภาพในการคิด การเรียนรู้ และสมาธิของเราก็มักแย่ลงไปด้วย
นอกจากนี้ การอดข้าวจนน้ำตาลในเลือดต่ำ ยังทำให้เกิดอาการวิงเวียน หน้ามืด ความดันต่ำ เป็นลม และหมดสติ ซึ่งล้วนเป็นภาวะที่อันตรายเช่นเดียวกัน
ลดความอ้วนไม่สำเร็จ
การกินอาหารเพียงน้อยนิดต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน จะทำให้อัตราการเผาผลาญต่ำลงตามไปด้วย และเมื่อถึงจุดหนึ่ง แม้เราจะออกกำลังกายมากขึ้น หรือกินน้อยลงกว่าเดิม น้ำหนักก็จะหยุดนิ่งและไม่ลดลงอีก
นอกจากนี้ การกินไม่เพียงพอจนสมองขาดน้ำตาล จะทำให้เรายิ่งรู้สึกอ่อนล้า เครียด หงุดหงิดง่าย และอยากกินแต่ของอ้วนๆ ที่มีน้ำตาลและไขมันสูงมากขึ้นไปอีก ความเครียดเหล่านี้อาจทำให้หลายๆ คนรู้สึกว่าการลดน้ำหนักเป็นเรื่องยากเกินไป เกิดอาการท้อแท้ และตบะแตกกลับมากินอย่างตะกละตะกลามจนอ้วนกว่าเดิมได้
ระบบเผาผลาญพัง
เมื่อร่างกายหิวโหยจากการอดอาหาร ประกอบกับมีการใช้พลังงานไปกับกิจกรรมหนักๆ อย่างการออกกำลังกายเป็นประจำ ร่างกายเราจะเข้าสู่ภาวะขาดอาหาร และส่งสัญญาณให้มีการเก็บไขมันสะสมไว้เป็นพลังงานสำรองมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็เริ่มสลายไขมันมาใช้น้อยลงเรื่อยๆ จนระบบเผาผลาญเสียสมดุลโดยสิ้นเชิง เมื่อถึงจุดนี้ แม้เรากินอาหารเพียงนิดเดียว ร่างกายก็จะเลือกเก็บสารอาหารเกือบทั้งหมดสะสมไว้ในรูปไขมัน แทนที่จะสลายมาใช้เป็นพลังงาน ทำให้ไขมันในร่างกายยิ่งสูงขึ้นไปอีก
ผลกระทบจากระบบเผาผลาญพัง จะทำให้เรากลายเป็นคนอ้วนง่าย เมื่อเริ่มกลับมากินมากตามปกติ ก็มักกลับมาอ้วนได้อย่างรวดเร็ว หรือที่เรียกว่า Yoyo effect นอกจากนี้ ยังเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน โรคอ้วน และโรคหัวใจมากยิ่งขึ้นด้วย
ขาดสารอาหาร
การที่เราไม่ทานอาหารให้เพียงพอ อาจส่งผลให้ขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายด้วย เช่น ขาดโปรตีนที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ขาดไขมันที่เป็นสารตั้งต้นในการสร้างฮอร์โมน และเป็นองค์ประกอบของเซลล์ ขาดวิตามิน ซี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และเป็นตัวช่วยป้องกันโรคลักปิดลักเปิด หรือขาดธาตุเหล็ก ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของเม็ดเลือดแดง ทำให้เกิดภาวะเลือดจางตามมาได้ เป็นต้น
สรุป: เลิกอดอาหาร แค่เลือกทานให้เป็น!
การอดอาหารจนร่างกายรับพลังงานไม่เพียงพอนั้นส่งผลเสียมากกว่าผลดี โดยเฉพาะในคนที่มีปัญหาสุขภาพอยู่แล้ว เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ต้องรับอินซูลิน และอาจเกิดภาวะน้ำตาลต่ำได้ในบางครั้ง หรือผู้ป่วยโรคตับที่มักมีภาวะขาดโปรตีนร่วมด้วย เป็นต้น
สำหรับคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก ควรทานอาหารให้เพียงพอ แต่อาจปรับสัดส่วนอาหารใหม่ เช่น ลดอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง แต่เพิ่มการกินโปรตีนและผักผลไม้ให้มากขึ้น หรืออาจเปลี่ยนจากการกินอาหารมื้อใหญ่ๆ มากินอาหารมื้อเล็กวันละ 4 – 6 มื้อแทนก็ได้ เพื่อให้ร่างกายสามารถเผาผลาญสารอาหารที่รับเข้ามาได้ทั้งหมด และเหลือเก็บเป็นไขมันให้น้อยที่สุด
เป็นบทคาใที่ดีมากค่ะ อ่านแล้วนไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ดีเลยค่ะ